ทัวร์ไฮไลท์ อินเดีย ถ้ำอชันต้าเอลโลร่า
ทัวร์
อินเดีย(ทั้งประเทศ)
ระยะเวลา
5 วัน 3 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
4-8 ธันวาคม 2562 / 15-19 มกราคม 2563 / 6-10 กุมภาพันธ์ 2563
Hilight

โกลบอล ฮอลิเดย์  ขอนำเสนอเส้นทางหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของอินเดีย ณ มุมไบ (บอมเบย์) เมืองที่มีทะเลอาระเบียนโอบล้อมอยู่สามด้าน เป็นศูนย์กลางด้านการค้าพาณิชย์ของอินเดีย และยังเป็นศูนย์รวมของศรัทธาความเชื่อและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ออรังคาบัด ความยิ่งใหญ่แห่งศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในอินเดีย คือ ถ้ำอชันต้าและถ้ำเอลโลร่า สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอายุกว่า 2,000 ปี เป็นมรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งศรัทธาของมนุษย์ที่มีต่อศาสนาที่ตนเคารพนับถือความงดงามของถ้ำพุทธศิลป์และงานประติมากรรมอันวิจิตรที่ปรากฎอยู่นั้นสวยงามบรรเจิดเป็นทัศนศิลป์ขั้นสูงที่ยากจะพรรณนาได้ จึงขอเรียนเชิญท่านเยือนไปชมด้วยตาของท่านเอง เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    วันแรก กรุงเทพฯ - มุมไบ
    • 17.30 น. คณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ W โดยสายการบิน AIR INDIA โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน 
      20.30 น.       เหินฟ้าสู่ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 331 (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 15 นาที)
      23.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฉัตราปตี ศิวะจิ เมืองมุมไบ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก JW MARRIOTT SAHAR MUMBAI HOTEL 5* หรือเทียบเท่า
  • Day 2
    วันที่สอง มุมไบ - ออรังคบัด (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม                                                                                                                                
      เมืองมุมไบ เป็นเมืองเศรษฐกิจของอินเดีย และมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองฮอลีวู้ดแห่งอินเดีย (บอลลีวู้ด) มานาน ยังเป็นศูนย์รวมของศรัทธาความเชื่อและวัฒนธรรมหลากหลาย เมืองมุมไบมีทะเลอาระเบียนโอบล้อมอยู่สามด้านเป็นศูนย์กลางด้านการค้าพาณิชย์ของอินเดีย จึงดึงดูดให้คนมากมายมาที่เมืองแห่งนี้   
      นำท่านสักการะ ณ วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple) เป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในอินเดีย เพราะเป็นวัดที่นักการเมือง นักแสดง และผู้มีชื่อเสียงในอินเดียให้ความเคารพศรัทธา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1801 ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศหรือเทพเจ้าแห่งความสําเร็จ ซึ่งแกะสลักจากหินสีดำ ชาวอินเดียเชื่อกันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตควรเดินทางมาสักการะองค์พระพิฆเนศที่วัดแห่งนี้เพื่อขอพรให้สมปรารถนา                                                               นำท่านชม ประตูสู่อินเดีย (Gateway of India) ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำในย่านอพอลโลบันเดอร์ ประตูชัยสู่อินเดียนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสที่พระเจ้าจอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรี่ ทรงเสด็จมาร่วมงานเดลีดารบัรในปีค.ศ.1911 วัสดุที่ใช้สร้างเป็นหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงอาทิตย์จะสาดส่องทาบทาลงมา ทำให้ประตูเปลี่ยนสีจากทองเป็นส้ม และจากส้มออกเป็นชมพู
      นำท่านผ่านชมและถ่ายรูปด้านนอก สถานีรถไฟฉัตราปตี ชิวาจิ เทอร์มินัส  (Chhatrapati Shivaji Terminus) หรือชื่อเดิมคือ วิคตอเรีย เทอร์มินัส (Victoria Terminus) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระจักรพรรดินีวิกตอเรียของอังกฤษ (ซึ่งปกครองอินเดียอยู่ในขณะนั้น) จากนั้นในปีค.ศ.1966 หลังจากอินเดียได้รับอิสรภาพ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น 
      "ฉัตราปตี ชิวาจิ เทอร์มินัส" ตามชื่อของกษัตริย์องค์หนึ่งของราชวงศ์มาราตะ สถานีรถไฟได้ออกแบบโดย Frederick Stevens เเละสร้างเสร็จในปีค.ศ.1887 ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการรถไฟเขตภาคกลางของอินเดีย ตัวอาคารสร้างสไตล์โกธิค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 2004
      11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน
      12.30 น. เดินทางถึงสนามบิน เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางสู่เมืองออรังคาบัด  
      15.25 น.   เหินฟ้าสู่ เมืองออรังคาบัด โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 442 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที)
      16.45 น. เดินทางถึงสนามบินออรังคาบัด หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เชิญพบกับไกด์ท้องถิ่น นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
      เมืองออรังคาบัด (Aurangabad) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองมุมไบ รัฐมหาราษฏระ ครอบคลุมพื้นที่ 200 ตร.กม.เป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ มรดกโลกถึง 2 แห่ง ได้แก่ ถ้ำอชันต้า และ ถ้ำเอลโลร่า
      ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก WELCOMHOTEL RAMA INTERNATIONAL HOTEL 5* หรือเทียบเท่า
  • Day 3
    วันที่สาม ถ้ำอชันต้า (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม                                                                                                                                
      นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำอชันต้า (Ajanta Cave) ( ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในเมืองออรังคาบัดของรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุด
      โดยถ้ำอชันต้ามีทั้งหมด 30 ถ้ำคูหา ซึ่งแบ่งการสร้างออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกสร้างขึ้นในครั้งแรกราว 200 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนช่วงที่สองนั้นสร้างขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 4-7 โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษปลีกวิเวก เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ภายในถ้ำเต็มไปด้วยงานประติมากรรมแกะสลักหิน บ้างก็เป็นลักษณะองค์สถูปเจดีย์ เป็นองค์พระพุทธรูป องค์พระโพธิสัตว์ และบรรดาภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำที่เล่าเรื่องราวต่างๆในพุทธประวัติและชาดก ถ้ำอชันต้าทั้ง 30 ถ้ำล้วนสร้างตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกสร้างตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนานิกายหินยาน อันได้แก่ ถ้ำหมายเลข 8,9,10,12,13,15 ส่วนถ้ำอื่นที่เหลือสร้างตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนานิกายมหายาน ภายในหมู่ถ้ำอชันต้าจึงมีทั้งรูปประติมากรรมและงานจิตรกรรมอันวิจิตรงดงามซึ่งคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะถ้ำถูกปิดซ่อนเอาไว้ จึงรอดพ้นจากการทำลายล้างจากกองทัพผู้มารุกราน ถ้ำอชันต้ามั่งคั่งด้วยงานพุทธศิลป์ชั้นสูงงดงามวิจิตรซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความวิริยะอุสาหะเพียรพยายามของช่างฝีมือและศิลปินแต่ครั้งอดีตกาลที่พยายามสกัดหน้าผาให้เรียบแล้วค่อยๆ เจาะภูเขาหินเข้าไปเป็นคูหา ด้านในของถ้ำจะเห็นองค์เจดีย์และองค์พระปฏิมาและพระโพธิสัตว์ที่จำหลักจากเนื้อหินเดียวกันละเอียดงามพลิ้ว มีการลงลายเขียนสีกลายเป็นสุดยอดภาพจิตรกรรมที่สีสันคงทนมานานนับพันปี ถ้ำที่นี่จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปีค.ศ. 1983
      กลางวัน        รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย             นำท่านเดินทางไปชม ป้อมเดาลาตาบัด (Daulatabad) ตั้งอยู่ห่างจากออรังคาบัดราว 15 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนยอดเขา
       ตัวป้อมมีขนาดใหญ่โตสูง 600 ฟุต เป็นป้อมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกษัตริย์มุสลิม ป้อมปราการโบราณแห่งนี้อดีตเคยเป็นเมือ
       หลวงของราชวงศ์ยารวะ และถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ในปีค.ศ.1296 จึงกลายเป็นเมืองหลวงอินเดีย
       ภายใต้การปกครองของกษตัริย์มุสลิมก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังคาบัด 
       เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ เมืองออรังคาบัด
      ค่ำ               รับประทานอาหารค่ำ
       เข้าสู่โรงแรมที่พัก WELCOMHOTEL RAMA INTERNATIONAL HOTEL 5* หรือเทียบเท่า
  • Day 4
    วันที่สี่ ถ้ำเอลโลร่า - บีบี กา มักบารา - มุมไบ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      ออกเดินทางสู่ ถ้ำเอลโลร่า (Ellora) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองออรังคาบัด (ระยะทางประมาณ  30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง) สร้างในพุทธศตวรรษที่ 9-12 โดยเริ่มสร้างจากด้านใต้ ซึ่งเป็นของศาสนาพุทธก่อนจนสิ้นสุดการสร้าง จากนั้นศาสนาฮินดูได้สร้างถ้ำขึ้นโดยสร้างต่อจากถ้ำของศาสนาพุทธจนกระทั่งศาสนาฮินดูสร้างสิ้นสุดลง แล้วศาสนาเชนก็ได้สร้างถ้ำต่อจากศาสนาฮินดูต่อไป ซึ่งภายในคอมเพล็กซ์นี้ประกอบไปด้วยถ้ำทั้งหมด 34 คูหา เป็นวัดถ้ำศาสนาพุทธ (ถ้ำหมายเลข 1-12) เทวาลัยถ้ำในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (ถ้ำหมายเลข 14-16) และวิหารถ้ำในศาสนาเชน (ถ้ำหมายเลข 30 และ 32) ถ้ำเหล่านี้ขุดเจาะเข้าไปในภูผา ซึ่งในการสร้างเทียบได้กับการแกะสลักมหาวิหารทั้งหลังจากศิลาก้อนขนาดใหญ่ทั้งก้อน หรือภูเขาทั้งลูก หมู่ถ้ำเอลโลร่าแห่งนี้ล้วนสลักเสลาขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น ถ้ำเอลโลร่าไม่เคยถูกทิ้งร้างเพราะถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในเส้นทางที่ผู้คนใช้สัญจรเดินทาง งานสถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมภายในวิหารที่ถ้ำเอลโลร่าดูแตกต่างจากที่ถ้ำอชันต้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่นี่มีการถ่ายทอดให้เห็นถึงความเป็นโลกมนุษย์มากกว่าถ้ำอชันต้า  ส่วนถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วิหารของพระศิวะที่ประทับบนเขาไกรลาส และถ้ำหมายเลข 10 ที่มีชื่อเรียกว่า Vishvakarma (หรือแปลว่า กระท่อมช่างไม้) โดยขุดและแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูปสูง 15 ฟุต 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
          บ่าย เดินทางต่อไปชม บีบี กา มักบารา (Bi Bi Ka Maqbara)  หรือที่รู้จักกันในนาม มินิ ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานสร้างขึ้นโดยพระโอรสของพระเจ้าออรังเซบที่มีชื่อว่า อาซัม ชาห์ (Asam Shah) เพื่อรำลึกถึงพระมารดาสุดที่รัก (พระนางบีกัม 
      ราเบีย อุเด ดาราณี) โดยลอกเลียนแบบทัชมาฮาล สร้างโดยใช้หินอ่อนสีขาว สถาปัตยกรรมจึงมีลักษณะคล้ายทัชมาฮาลแต่มีขนาดเล็กกว่า
      เย็น รับประทานอาหารเย็น  
      18.00 น. เดินทางถึงสนามบินออรังคาบัด เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย  
      20.20 น.   เหินฟ้าสู่ เมืองมุมไบ โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 441 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 15 นาที)
      21.35 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฉัตราปตี ศิวะจิ เมืองมุมไบ  รอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

  • Day 5
    วันที่ห้า มุมไบ - กรุงเทพฯ

    • 01.45 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 330 (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 5 นาที)
      07.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

      ***********************************
Top